กลองชุด ถือเป็นเครื่องดนตรีอีกประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีทั้งเล่นเพื่อความสนุก เป็นงานอดิเรก เป็นอาชีพหลัก ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้เครื่องดนตรีประเภทตีนี้มีจังหวะที่ทุ้ม แหลม สูง ต่ำ สามารถสร้างจังหวะสนุก ๆ ได้ อยู่ในจังหวะเศร้าสร้อยก็ได้
หากคุณเป็นนักดนตรีที่มีความชอบจังหวะเหล่านี้ และอยากมีเครื่องดนตรีชนิดนี้อยู่ในครอบครองก็ย่อมไม่เป็นการยากลำบากแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันนี้มีอยู่มากมายหลากหลายรุ่นที่วางขายตามท้องตลาด ทั้งมือหนึ่งและมือสอง คุณภาพเสียงก็คุ้มค่า คุ้มราคา อีกทั้งแต่ละเจ้าก็มีของมาทั้งลด แลก แจก แถม ชนิดที่เรียกว่าเลือกกันจนตาลาย วันนี้เราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับ วิธีการเลือกซื้อ กลองชุด ที่ดีและมีคุณภาพ ว่าจะต้องดูอะไรบ้าง

7 วิธีการเลือกซื้อ กลองชุด
- เลือกซื้อตามงบประมาณของคุณ
ทั้งนี้เนื่องจากราคาของ กลองชุด นั้นมีมากมายบนท้องตลาด และราคาก็มีหลากหลายจนคุณอาจจะงงได้ ดังนั้นง่ายที่สุดก็คือ การตั้งงบประมาณสำหรับการซื้อเครื่องดนตรีชนิดนี้ก่อน เช่น กรณีที่ต้องการกลองจากผู้ผลิตชั้นนำ ราคาก็จะอยู่ที่ 10,000 – 50,000 บาท แต่หากคุณต้องการสินค้าคุณภาพ พร้อมฟังก์ชันจัดเต็มก็อาจจะมีราคามากกว่า 50,000 บาท
- เลือกตามฮาร์ดแวร์
ขาตั้งหรือฮาร์ดแวร์นั้น เรียกว่าได้เป็นส่วนสำคัญของ กลองชุด โดยการผลิตนั้นสามารถวัดได้ทั้งราคา คุณภาพ รวมไปถึงด้านการใช้งาน มีทั้งที่ผลิตในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น หากคุณอยากได้ฮาร์ดแวร์ที่มีคุณภาพ ก็ขอแนะนำผู้ผลิตจากประเทศไต้หวันที่ถือว่านอกจากดีไซน์สวยแล้ว แต่ละรุ่นยังสามารถปรับเพิ่ม เสริมแต่งได้ภายหลังได้ด้วย

- เลือกตามประเภทการใช้งาน
กลองชุด ธรรมดา : ข้อดีคือเสียงดังฟังชัด เหมาะกับงานใหญ่ ฟีลลิ่งในการตีที่สมจริง ให้เสียงที่ออกมาเป็นธรรมชาติ ใส่อารมณ์ได้เต็มที่ มักนิยมใช้ในงานอัดและเล่นสด เคลื่อนย้ายยากเพราะจำนวนและขนาดของอุปกรณ์ แต่ต้องใช้ไมค์จ่อ ใช้อุปกรณ์เสริมมากกว่าและมีขั้นตอนยุ่งยากสำหรับมือใหม่ ราคาเริ่มต้นจะถูกกว่ากลองไฟฟ้า
กลองชุด ไฟฟ้า : กลองไฟฟ้า ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน ปรับแต่งเสียงได้ง่าย สามารถเก็บเสียงได้ดี มักนิยมใช้งานการซ้อม เคลื่อนย้ายง่ายเพราะมีอุปกรณ์ขนาดเล็กและจำนวนน้อยชิ้น โดยส่วนใหญ่สามารถต่ออัดได้โดยตรงเลย ไม่ต้องอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก สามารถเปลี่ยนเสียงได้ตามซอฟต์แวร์ที่มีในตัวเครื่อง แต่ราคาอาจจะสูงกว่ากลองชุดธรรมดา

4. เลือกซื้อโดยดูจากอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ
ดูจากฉาบ : ฉาบเป็นส่วนประกอบของกลองที่ไม่สามารถปรับเสียงได้ ดังนั้นการเลือกซื้อควรมีการทดสอบเสียงก่อนซื้อ
ดูจากหนังกลอง : หนังกลองก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะเป็นจุดที่ทำให้เกิดเสียง ดังนั้น คุณภาพของหนังที่ใช้ในการทำหนังกลองก็ต้องมีความยืดหยุ่น ทนทาน และยังต้องปรับความตึงหย่อนได้ง่าย กรณีที่ต้องซ้อมบ่อย ๆ ก็ยังต้องใช้งานต่ออีกนาน ความทนทานก็เป็นส่วนสำคัญ
ดูจากไม้ที่ใช้ผลิตกลอง : ไม้ที่ได้รับความนิยมในการนำมาทำกลอง คือ ไม้มะฮอกกานี ที่ถือว่ามีคุณภาพสูง และนอกจากนี้ก็ยังมี ไม้เบิร์ช ส่วนไม้ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ได้แก่ ไม้เมเปิ้ล เป็นต้น
5. เลือกจากยี่ห้อ
ยี่ห้อของ กลองชุด ในบ้านเราก็มีหลากหลาย แนะนำให้ดูยี่ห้อที่เป็นที่รู้จัก เช่น Yamaha, Pearl, Tama, Mapex, Dixon แม้ว่ากลองเหล่านี้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็มีคุณภาพดีตามราคา ส่วนยี่ห้อของผู้ผลิตในจีนและมีชื่อเสียงในเมืองไทย ก็เช่น Future, Paramount, Vivid เป็นต้น
6. ความแข็งแรงทนทาน
เนื่องจากเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องใช้แรงในการตี และยังคงต้องใช้งานค่อนข้างหนัก ดังนั้นจึงควรดูว่าอุปกรณ์ชนิดใดมีความแข็งแรง รับแรงกระแทกได้ดี เน้นไปที่ความแข็งแรงไว้ก่อน ตั้งแต่หน้ากลอง ฉาบ ขาตั้ง เบสดรัม กระเดื่อง ไม้กลอง หรือแม้แต่น็อตยึด โครง ก็ต้องมีความแข็งแรงมาก อย่างต่ำต้องเป็นโครเมียมเท่านั้น
7. สีสัน
ลวดลาย สีสัน จริง ๆ แล้วอยู่ที่ความชอบของคุณ ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายสี หลายลวดลาย อยู่ที่ความชอบ
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 7 วิธีการเลือกซื้อ กลองชุด แบบง่าย ๆ เพื่อให้คุณได้ของดีมีคุณภาพ และอย่าลืมว่าถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังจะซื้อเป็นครั้งแรก ก็อย่าลืมพาคนที่มีความรู้ หรือเพื่อนที่สามารถให้คำปรึกษาในการซื้อไปด้วย เพราะสองตา ก็ย่อมดีกว่าตาเดียว อย่างน้อยเขาจะให้คำแนะนำคุณได้ดี
Picture credit : https://www.pexels.com