หากพูดถึงวงดนตรีซิมโฟนีหรือวงออร์เคสตราคงไม่พูดถึง ทรอมโบน ไม่ได้ เนื่องจากเครื่องดนตรีชนิดนี้เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ของเสียงให้ไพเราะ เพิ่มความสดใส ให้กับวงดนตรีได้เป็นอย่างดี ซึ่งวัตถุประสงค์หลักในการสร้าง คือ ใช้เพื่อตอบสนองนักประพันธ์และนักดนตรี ให้ได้พบกับช่องเสียงที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงรวบรวมความรู้เบื้องต้นมาแบ่งปันดังนี้
1. ความเป็นมา
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทรอมโบน มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่ อิตาลี ซึ่งชาวอังกฤษยุคโบราณเรียกเครื่องดนตรีชนิดนี้ว่า Sackbut. ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่อยู่ในยุคสมัยใหม่ อีกทั้งยังเชื่อกันว่าตลอด 500 ปีที่ผ่านมาเครื่องดนตรีชนิดนี้ไม่เคยถูกเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงรูปทรงใด ๆ เลย อาทิช่องเป่า และกระดิ่งที่เป็นแกนสไลด์เพื่อสร้างเสียงให้สูงและต่ำ โดยตัวท่อเป็นแท่งกลวงสีทองขนาดใหญ่ จึงทำให้เสียงของเครื่องดนตรีชนิดนี้มีพลัง หนักแน่นและชัดเจน สามารถไล่ระดับเสียงได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังช่วยสร้างความรู้สึกให้กับตัวโน้ตได้หลากหลายด้วย
2. วิธีการเล่น
เครื่องดนตรีชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป่าลมเข้าไปโดยมือซ้ายวางไว้บริเวณริมฝีปาก ในขณะที่มือขวาควบคุมการสไลด์เพื่อสร้างระยะและช่องเสียง สำหรับตำแหน่งเสียงแรกจะให้เสียงที่สูงที่สุด และหากดึงตัวโยกจนสุดในตำแหน่งที่ 7 เสียงที่ได้จะต่ำสุด โดยแต่ละตำแหน่งของเสียงจะลดลงครึ่งเสียง ซึ่งในยุคปัจจุบันเครื่องดนตรีชนิดนี้จะถูกเล่นกับเครื่องเป่าชนิดอื่น เนื่องจากช่วงเสียงของ ทรอมโบน จะอยู่ที่ 2,5 อ็อกเทฟ ในส่วนของ วาล์ว จะอยู่ที่ B และสเกลเบสอยู่ในตำแหน่งคีย์ F ซึ่งเสียงจะต่ำกว่าหนึ่งในสี่ของเครื่องดนตรีชนิดอื่น
3. ทรอมโบนเบส คือ
เครื่องดนตรีประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นโทนเสียงต่ำ ซึ่งเป็นช่องเสียงที่เครื่องดนตรีชนิดนี้ทำได้ดีที่สุดเนื่องจากมีตัวแกนขยายและมีท่อม่านขนาดเล็ก มีลักษณะคล้ายกับสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่าแตรฝรั่งเศส เนื่องจากลักษณะภายนอกมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก อีกทั้งในอดีตเครื่องดนตรีชนิดนี้ยังถูกใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับทหารกล้า ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั้งในฝรั่งเศสและเยอรมนีจนได้รับการขนานนามว่า แตรฝรั่งเศสและแตรเยอรมัน
4. ประเภทสไลด์ทรอมโบน
เนื่องจากเครื่องดนตรีชนิดนี้ถูกพัฒนาและปรับปรุงให้มีความหลากหลายมากขึ้นในยุคปัจจุบัน จึงทำให้ประเภทของเครื่องดนตรีชนิดนี้มีสามารถแบ่งได้ 7 ประเภทดังนี้
- Sopranino Trombone: เป็นหนึ่งในกลุ่มเครื่องดนตรีหน้าบาก ซึ่งขนาดของ โซปรานิโน มีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก โดยตัวลำโพงมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงแค่ 10 เซนติเมตร และให้เสียงที่สูงคล้ายกับปิกโคโลทรัมเป็ต (Piccolo Trumpet) เสียงจะอยู่ระหว่าง E4-F7 ด้วยเหตุนี้จึงมักถูกนักทรัมเป็ตนำไปใช้เป็นหลัก
- Piccolo Trombone: มีลักษณะคล้ายกับโซปรานิโน อีกทั้งขนาดของรูเป่าลมยังมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งอยู่ที่ 10.2 – 10.9 เซนติเมตร แต่ช่องเสียงของปิกโคโล จะมีช่องเสียงอยู่ที่ A3-Eb6 โดยเครื่องดนตรีทั้งสองประเภทมักถูกพบในวรรณกรรมและประวัติศาสตร์เป็นหลัก
- Soprano Trombone: หรือสไลด์ทรัมเป็ต ซึ่งนิยมนำมาใช้เล่นในวงดนตรีแจ๊สเป็นหลัก ในส่วนของคีย์จะอยู่ที่ E3-C6 ซึ่งช่วงเสียง C4-C6 จะเหมาะกับนักร้องเสียงโซปราโน นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเสียงสูงหรือต่ำกว่าคีย์ดังกล่าวได้สำหรับผู้เล่นที่มีทักษะสูง
- Alto Trombone: สามารถสไลด์ได้ 7 ตำแหน่งจึงทำให้ตัวเครื่องดนตรีมีความยาวกว่าปกติเล็กน้อย ขนาดตัวลำโพงจะอยู่ที่ 17 ถึง 18 เซนติเมตร สำหรับเสียง จะอยู่ในกลุ่ม A2 – Bb5 และ Eb/Bb โดยตัวโน้ตสูงสุดที่เล่นได้จะไม่เกิน F5
- Tenor Trombone: สามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มคือแบบที่ไม่มีวาล์วและแบบที่มีวาล์วสำหรับกดเปลี่ยนเสียงโดยช่องเสียงสามารถสไลด์ได้ตั้งแต่ 1-7 เสียงที่ได้จึงมีเสียง E2-F5 และ Bb/F
- Bass Trombone: มีความยาว 2.7 เมตร ทั้งยังนิยมใช้บรรเลงในวงซิมโฟนี ออร์เคสตราและวงอื่น ๆ อย่างแพร่หลาย โดยช่วงเสียงจะอยู่ที่ Bb/F/Gb และ Bb/F/Eb สำหรับกลุ่มเสียงเบสจะอยู่ที่ Bb0-C5
- Contrabass Trombone: มีเส้นผ่านศูนย์กลางท่อลมที่ใหญ่ โดยช่วงเสียงจะอยู่ที่ Ab0 – C5 และ F/C/Db
ในยุคปัจจุบัน ทรอมโบน ถูกนำมาใช้ในวงดนตรีและการแสดงมากมายหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีประเภทของเสียงที่หลากหลาย สำหรับคนที่สนใจอยากลองเล่นสามารถศึกษารายละเอียดเรื่องขนาดและเสียงตลอดจนราคาที่เหมาะสมได้ตามความเหมาะสมก่อนตัดสินใจได้
อ่านบทความ ทรอมโบน เครื่องเป่าทรงเสน่ห์ สำหรับนักดนตรีสากล ทั่วโลก
เครดิต www.pixabay.com