การเลือกซื้อ อูคูเลเล่ สำหรับมือใหม่ กลายเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนต่างมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเลือกซื้อเครื่องดนตรีชิ้นแรก เนื่องจากนวัตกรรมที่ถูกปรับปรุงใหม่ทำให้เครื่องดนตรีในยุคปัจจุบัน มีหลายขนาด ทำขึ้นจากชนิดไม้ที่แตกต่าง รวมถึงประเภทของสายก็มีความหลากหลายด้วย วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อที่เหมาะสำหรับมือใหม่ รวมไปถึงวิธีการดูองค์ประกอบโดยรวมว่าควรเป็นเช่นไร
- ขนาด (Ukulele size)
อูคูเลเล่ สามารถแบ่งตามขนาดสากลได้ทั้งหมด 4 ขนาดซึ่งประกอบไปด้วย
- Soprano: ขนาด 21 นิ้ว ซึ่งเป็นไซด์ที่มีขนาดเล็กที่สุด soprano จึงเหมาะมากสำหรับหญิงสาวและเด็ก ในส่วนของเสียงใส คม และกังวาน
- Concert: ขนาด 23 นิ้ว ตัวบอดี้จะมีขนาดใหญ่ คอยาว ให้เสียงกลางโทนทุ้ม ซึ่งสามารถเล่นได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการตีคอร์ด โซโล หรือการเกาสาย สะดวกต่อการพกพา ทั้งยังเป็นหนึ่งในไซด์ยอดนิยม เหมาะสำหรับการเลือกเป็นเครื่องดนตรีตัวแรก
- Tenor: สำหรับคนที่ชื่นชอบขนาดของเครื่องสายที่ใกล้เคียงกับกีตาร์ขนาดเล็ก Tenor ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก Tenor มีขนาดคอและตัวบอดี้ใหญ่เกือบเท่ากับกีตาร์ไซด์ปกติ ให้โทนเสียงทุ้มหนาใกล้เคียงกับเสียงของกีตาร์ จึงเหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์เล่นมาแล้วระยะหนึ่ง หรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนไซด์ที่มีขนาดใหญ่
- ชนิดของไม้ (wood)
สำหรับชนิดของไม้ที่นำมาใช้สร้าง อูคูเลเล่ในยุคปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายชนิดแต่ไม้ที่นิยมนำมาใช้มากที่สุดคือไม้ Kia/ mahogany/ acacia/ rosewood/ cedar ซึ่งเป็นไม้ที่มีลักษณะพิเศษ อีกทั้งยังสามารถแบ่งประเภทออกได้เป็นสองแบบ คือไม้แท้(solid) และไม้อัด(laminated) โดยรายละเอียดของไม้แต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันดังนี้
- ไม้แท้ (solid wood)
ความพิเศษของไม้แท้คือจะให้โทนเสียงที่ดีใสกังวานมากกว่าไม้อัด ยิ่งเป็นไม้เก่าเสียงจะยิ่งดีมากขึ้น เนื่องจากแกนไม้ที่เปิดกว้างและความแห้งตามธรรมชาติของไม้ ส่งผลทำให้เสียงกังวานไพเราะและใส แน่นอนว่าต้องแลกมากับราคาที่สูง ดังนั้นหากใช้ในระยะยาววัสดุจากไม้แท้คือทางเลือกที่ดีมาก รวมไปถึงมืออาชีพหรือศิลปินที่ต้องการความคมชัดของเสียง
- ไม้อัด (Laminate wood)
สำหรับไม้อัดเสียงที่ได้อาจไม่ไพเราะเท่าไม้แท้นัก โดยเนื้อเสียงจะเน้นไปในโทนทุ่ม กังวาน ส่วนเนื้อไม้ที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้คือ mahogany/ acacia และ sapele จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีงบจำกัด เนื่องจากไม้อัดไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามากนัก อีกทั้งยังมีราคาปานกลางเข้าถึงง่าย
- รูปทรง (Ukulele shapes)
โดยปกติแล้วรูปทรงของ อูคูเลเล่จะมีลักษณะคล้ายกับเลข 8 ซึ่งเป็นทรงมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากที่สุด แต่ เครื่องดนตรีชนิดนี้ถูกดัดแปลงรูปร่างให้มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยสามารถสรุปได้ 3 รูปทรงคือ
- ทรงตามมาตรฐานหรือทรงกีตาร์ (Standard Ukulele)
รูปทรงพื้นฐานนี้มีลักษณะคล้ายเลข 8 ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดซึ่งลำตัวและส่วนโค้งเว้าที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะสวยงาม เหมาะสำหรับการเล่น ให้เสียงที่ก้องกังวานมากที่สุด
- ทรงสัปปะรด (Pineapple Ukulele)
รูปทรงนี้เป็นที่นิยมมากในหมู่เกาะฮาวายซึ่งเป็นต้นกำเนิด ด้วยรูปทรงที่น่ารักมีเอกลักษณ์โดดเด่น ในโทนเสียงโป่งใส กังวาน รวมถึงสัดส่วนโค้งเว้า ที่ยากต่อการจับเล็กน้อย
- ทรงคอเว้า (cut away Ukulele)
ด้วยรูปทรงเว้าที่คล้ายรูปแบบตามมาตรฐาน ทำให้มีช่องว่างในการเล่นด้วยขนาดคอที่ถูกตัดออกให้มีความโค้งเว้า เข้ากับรูปมือ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการ โซโล หรือเล่นแนว fingerstyle
- สาย (string)
สาย อูคูเลเล่ คือแหล่งกำเนิดเสียงที่ช่วยทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินกับการเล่นได้ค่อนข้างมาก ซึ่งสิ่งที่ควรสังเกตคือระยะห่างของสาย ความเจ็บเมื่อสัมผัสกับนิ้ว และเพื่อไม่ให้ระหว่างเล่นรู้สึกเจ็บหรือฝืนมากจนเกินไป การเลือกสายที่มีลักษณะเหมาะสมกับนิ้ว ไม่แข็ง ไม่ห่าง มากไปจึงจะดีเพื่อให้การเล่นในช่วงฝึกซ้อมไม่มีอุปสรรค
- ราคา (price)
สำหรับเรื่องของราคาควรเริ่มต้นจากราคาที่ไม่ต่ำหรือสูงมากจนเกินไป โดยเลือกจากสายและคุณภาพของไม้ที่นำมาสร้างเป็นวัสดุหลัก ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นมือใหม่ลดความกังวลในส่วนของค่าใช้จ่ายได้ดีมากยิ่งขึ้น
อูคูเลเล่ ในยุคปัจจุบันเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีรูปทรงที่น่ารักเหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ต้องการฝึกเล่นในระยะยาว แต่ถึงอย่างนั้นการฝึกเล่นก็จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมถึงศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเสียงและขนาดเพื่อให้การเลือกซื้อของเรามีประสิทธิภาพมากที่สุด
เครดิตรูปภาพจาก www.pexels.com
อ่านบทความ วิธีเลือกเบสไฟฟ้า สำหรับมือใหม่