วิธีเลือกเบสไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่ง ปัญหาที่ทำให้มือใหม่หลายคนต้องหนักใจ เนื่องจากเบสแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง อีกทั้งประเภทของเบสก็ยังมีหลากหลายซึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุดคงไม่พูดถึงเรื่องคุณภาพของเสียงและคุณภาพของวัสดุในการใช้ทำเบสไม่ได้ เราจึงได้รวบรวมวิธีการเลือกเบสประเภทใช้ไฟฟ้ามาแบ่งปันให้มือใหม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที
- เลือกจากจำนวนสาย
เนื่องจาก เบสไฟฟ้า ในยุคปัจจุบันมีหลากหลายประเภท อีกทั้งจำนวนของสายยังสามารถแบ่งกลุ่มได้ตามจำนวนของสายดังนี้
- เบสชนิด 4 สาย
เบส 4 สายเป็นเบสแบบดั้งเดิมตามมาตรฐาน ซึ่งเบสชนิดนี้มักจะมีคอแคบกว่าเบสชนิด 5 หรือ 6 สาย โดยเสียงหลักที่เบส 4 สายจะให้คือโทน E A D G ซึ่งเป็นเสียงที่มีความซับซ้อนน้อยกว่าเสียงชนิดอื่น ด้วยเหตุนี้เบสแบบ 4 สายจึงเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหัดเล่นหรือเหมาะสำหรับเล่นเพลงที่ใช้คอร์ดไม่ยากมาก
- เบสชนิด 5 สาย
เบสชนิด 5 สายเป็นหนึ่งในเบสที่เหมาะสำหรับคนที่มีทักษะเล่นในระดับพื้นฐานซึ่งเป็นที่นิยมในดนตรีคันทรีและเพลงที่ใช้เสียงร้องเป็นหลัก โดยโทนเสียงจะอยู่โทน B ให้เสียง B-E-A-D-G จึงช่วยให้นักดนตรีเล่นเพลงได้หลากหลายแนวและสามารถเล่นเพลงที่มีคอร์ดซับซ้อนได้ดี
- เบสชนิด 6 สาย
เบสประเภท 6 สายเป็นเบสที่มีลักษณะคล้ายเบส 5 สายเนื่องจากความหลากหลายของโทนเสียงและตัวสายเบสทั้ง 6 ให้โทนเสียง B-E-A-D-B-C จึงเหมาะมากสำหรับการเล่นแนวโซโล่ เล่นเพลงที่มีความซับซ้อนเป็นพิเศษ นักดนตรีมืออาชีพจึงนิยมนำมาเล่นเป็นตัวหลัก รวมถึงผู้ที่ต้องการฝึกฝนในระดับซับซ้อน
- เลือกจากระบบไฟ
เบสไฟฟ้า ถูกแบ่งออกเป็นสองระบบไฟ คือระบบไฟแบบ Active และ Passive โดยแต่ละแบบ ถูกคิดค้นขึ้นมาให้สามารถเพิ่มคุณภาพของเสียงในด้านต่าง ๆ เช่น ตัวบอดี้ คอเบส รวมถึง PU ซึ่งให้โทนเสียงอบอุ่น ดาร์ค และ ร็อค ดังนั้นการเลือกระบบไฟ จึงควรใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ เพื่อให้เราควบคุมน้ำหนัก ความแน่น และพลังของเสียงจากตัวเบสได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเคลื่อนไหวระหว่างการใช้งานเบสด้วย
- เลือกจากคอเบส
ส่วนสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่มือใหม่หัดเลือก เบสไฟฟ้า จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือเรื่องของคอเบส เพราะไม่ว่าระดับเสียงและน้ำหนักของเสียงที่เราต้องการจะก้องกังวานหรือใสมากขนาดไหน ความรู้สึกในการเล่นของผู้เล่นจะส่งผลต่อเสียงที่สื่ออกมาได้อย่างชัดเจน ดังนั้นคอเบสจึงจำเป็นต้องเลือกให้พอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปนอกจากนี้เรายังต้องใส่ใจเรื่องไม้ที่ใช้ทำคอเบสด้วย เพื่อให้ระหว่างการจับนุ่มและเล่นได้สบาย
- เลือกจากแอกชั่น
แอกชั่น เบสไฟฟ้า เป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากระยะห่างของสายเบส(แอกชั่น) สามารถส่งผลต่อการเล่นได้โดยตรง และยิ่งระยะห่างต่ำ หรือสายกับแฟรทมีระยะห่างจากกันน้อย ก็จะทำให้ผู้เล่น เล่นได้ง่ายและเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดการออกแรงกดของนิ้วได้มากด้วย สำหรับข้อเสียของระยะห่างต่ำคือถ้าปรับสายไม่พอดี อาจทำให้เกิดการตีเฟรทได้ ส่วนแอกชั่นสูงหรือระยะสายหากจากเฟรทระยะพอประมาณ เหมาะสำหรับคนที่มีนิ้วใหญ่และยาว ซึ่งจะช่วยให้การเคลื่อนไหวของนิ้วคล่องตัวขึ้น ด้วยเหตุนี้ระยะห่างของสายหรือแอกชั่นจึงจำเป็นต้องทดลองและสัมผัสเล่นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
****อาการตีเฟรท: เกิดจากสายที่มีการสั่นและนิ้วไปสัมผัสโดนเฟรทเส้นอื่นบนคอเบสโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดเสีนงที่เพี้นหรือเกิน
- ตรวจสอบโดยรวม
เพื่อให้เบสมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้ดีที่สุดเราจำเป็นต้องตรวจสอบจุดชำรุดทุกจุดที่เราสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เราได้สินค้าที่ดีที่สุด รวมถึงการทดลองเล่นจริงเพื่อทดสอบเสียงและความไหลลื่นระหว่างเล่น ตลอดจนเนื้อเสียงที่แท้จริงของเบสที่เราเลือก ซึ่งในส่วนนี้อาจจำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้ด้านเสียงคอยให้คำแนะนำ เพื่อช่วยจับเสียงแต่ละคอร์ดว่ามีจุดผิดพลาดบ้างหรือไม่
สำหรับ วิธีเลือกเบสไฟฟ้า ตัวแรก แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญมากสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นเล่นเบสจริงจัง ทั้งนี้เรื่องรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ ซึ่งใครที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือความรู้ในเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ทำเบส ตลอดจนเรื่องของเสียงระหว่างการเล่นก็จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ เพื่อช่วยให้เราเลือกซื้อเบสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครดิตรูปภาพจาก www.pexels.com
อ่านบทความ ความแตกต่างระหว่าง เชลโล และ ดับเบิลเบส เครื่องดนตรีสุดคลาสสิคที่หลายคนมักเข้าใจผิด