แซกโซโฟน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องบรรเลงด้วยการเป่าลม ซึ่งมีบทบาทในวงการดนตรีมานานมาก ตามประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีสากล ดนตรีเป็นสิ่งที่ถือกำเนิดมาจากธรรมชาติ กล่อมเกลาจิตผู้ฟังให้อ่อนโยน ดังคำกล่าวที่ว่า “ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานนั้นเป็นคนชอบกลนัก” เดิมทีเครื่องดนตรีเกิดจากการสังเกตธรรมชาติของคนโบราณ จนเกิดเป็นเครื่องดนตรีหลายประเภท
ปัญหาของผู้เล่นโดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ นั่นคือ วิธีการเลือกซื้อนั่นเอง เนื่องจากในท้องตลาดนั้น ก็มีเครื่องเป่าประเภทดังกล่าวมากมาย หลากหลาย ดังนั้นวันนี้ เราจะพาคุณไปพบกับ มือใหม่ต้องรู้ วิธีการเลือกซื้อ เบื้องต้น ฉบับเข้าใจง่าย ว่าต้องดูอะไรบ้าง

แซกโซโฟน มือใหม่ต้องรู้ วิธีการเลือกซื้อเบื้องต้น
1. งบประมาณ
เรื่องเงินถือว่าเป็นปัจจัยหลักของการเลือกซื้อเครื่องดนตรีสักชิ้นหนึ่ง เพราะการตั้งงบประมาณไว้จะให้กำหนดสเปก ยี่ห้อ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของ แซก ที่เราต้องการได้ จากนั้นก็ศึกษาราคาจากร้านต่าง ๆ ที่มีมากมายในเว็บ
2. เลือกตามประเภทการใช้งาน หรือความถนัด
โดยตระกูล แซกโซโฟน ที่ได้รับความนิยมนั่นมีทั้งหมด 4 ชนิดด้วยกัน ประกอบด้วยแซ็กโซโฟนโซปราโน, แซ็กโซโฟนอัลโต, แซ็กโซโฟนเทเนอร์ และแซ็กโซโฟนบาริโทน และที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ โซปราโน เป็นประเภทที่มีระดับเสียงความถี่เสียงสูงที่สุด ตามด้วยอัลโต, เทเนอร์และสุดท้ายที่ต่ำคือ บาริโทน

3. แซกโซโฟน จะพิจารณาอุปกรณ์โดยทั่ว ๆ ไปดังต่อไปนี้
ความแข็งแรงของวัตถุ ความหนา ความบาง กรณีที่โลหะที่ใช้หนาเกินไปทำให้เสียงทึบ แต่ถ้าหากโลหะบางเกินไป จำทำให้บุบง่าย และอย่าลืมตรวจความแข็งแรงของแป้นนิ้ว หรือสปริงต่าง ๆ
นวม ดูความปรานีตของการประกอบอุปกรณ์ดังกล่าว ว่านวมทุกนวมปิดสนิทหรือไม่ ความห่างของนวม หรือความกว้างของนวม กว้าง หรือแคบเกินไปหรือไม่ เพราะมันมีผลต่อเสียงที่จะเกิดขึ้นของ แซกโซโฟน
เสียงของการกระทบกันของโลหะ วิธีการง่าย ๆ คือ การกดแป้นนิ้วเพื่อดูการทำงานของสปริง หากมีเสียงกระทบกันของโลหะ แปลว่ามีความผิดปกติ

ความห่างของช่องนวม หน้าต่าง และความหนา ความบางของนวม ว่าแต่ละตัวเท่ากันหรือไม่ ซึ่งความผิดปกติดังกล่าวมีผลต่อการใช้งาน การกด และการเกิดเสียงเช่นเดียวกัน แต่สามารถซ่อมได้ด้วยช่างฝีมือ
ตรวจระบบการทำงานของสปริง ว่ามีลักษณะแข็งหรืออ่อนเกินไปหรือไม่ หากสปริงแข็งเกินไปก็จะทำให้การกดแป้นนิ้วกดยาก แต่ถ้าสปริงก่อนเกินไป จะทำให้เกิดแป้นนิ้วสั่นหลังการกด หากเกิดกรณีดังกล่าวไม่ควรดัด หรือซ่อมแซมเอง ควรส่งซ่อมเช่นกัน
ลูกล้อระหว่างนิ้ว ที่ D# กับ C ต่ำ บริเวณ B กับ Bb และนิ้ว C# มีความคล่องตัวในการหมุนไปทางใดทางหนึ่งหรือเปล่าต้องหมุนได้สะดวก
ช่องว่างระหว่างเสาแป้นนิ้ว หรือด้านแป้นนิ้ว ข้างใดข้างหนึ่ง หลวมหรือไม่
4. ศึกษาส่วนประกอบต่าง ๆ
การศึกษาส่วนประกอบต่าง ๆ ของ แซกโซโฟน อย่างละเอียด เมื่อไปซื้อจะได้ทราบว่าชิ้นส่วนใดมีปัญหา หรือชำรุดเสียหาย และอย่าลืมศึกษาวิธีการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ด้วย และเมื่อได้ไปซื้อที่ร้าน ก็ขอทางร้านทดลองถอดชิ้นส่วน และประกอบกลับเข้าไป ด้วย
5. ทดสอบเสียง
แเนะนำให้เป่าตาม โน้ตเลย เสียงดีเสียงเพราะ เป่าง่าย เสียงกังวาน ก็แสดงว่า ตัวนั้นมีคุณภาพดี เเละถ้า เสียงต่ำ เสียงสูง ออกมาดี คือตัวนั้น
6. หาข้อมูลร้านที่จะซื้อว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่
เป็นการสร้างความสบายใจว่าร้านที่เราจะไปซื้อเครื่องดนตรีชิ้นโปรดนั้นมีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถดูได้จากขนาดของร้าน สินค้าที่จำหน่าย และรีวิวจากผู้ใช้งานหรือผู้ซื้อ รวมไปทั้งดูบริการหลังการขายจากทางร้านด้วย
7. ปรึกษา หรือพาผู้ติดตามที่มีความรู้ไปด้วย
สองหัวดีกว่าหัวเดียว เป็นเรื่องจริงเพราะจะได้ช่วยกันดู หาจุดบกพร่อง และลดความเสี่ยงในการโดนโก่งราคาหรือโดนหลอกได้
การเลือกเครื่องดนตรีดี ๆ สักชิ้น ย่อมต้องอาศัยเวลา และความรู้ ดังนั้นหากชอบจริง ๆ ก็ควรศึกษาข้อมูลก่อนเลือกซื้อ เพราะ แซกโซโฟน ยิ่งยี่ห้อดัง ๆ ก็ยิ่งมีราคาสูงด้วย ดังนั้นถือเป็นการลงทุนประเภทหนึ่ง หากอยากได้เครื่องดนตรีที่ดีไม่ทำให้ผิดหวัง และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลทุกครั้งก่อนควักเงินจ่าย
อ่านเครื่องดนตรีประเภท เครื่องเป่าลมไม้ เพิ่มเติม
Picture credit: https://pixabay.com