ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามามีบทบาทในวงการอุตสาหกรรมเครื่องดนตรีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ กลองไฟฟ้า ได้รับการพัฒนาและมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ ซึ่งในยุคปัจจุบัน กลองมีฟังก์ชันหลากหลาย มีราคาที่คุ้มค่า อีกทั้งยังเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลัก ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 กลองแบบไฟฟ้ายอดนิยมประจำปี 2023
1. Hampback MK-1S Pro
กลองไฟฟ้า รุ่นนี้เป็นหนึ่งในกลองที่มีราคาไม่สูงมาก มาพร้อมเสียงสำหรับฝึกซ้อมในตัวมากถึง 329 เสียง มีกระเดื่องที่ทำจากหนังมุ้งซึ่งให้เนื้อสัมผัสสมจริง โดยรุ่นนี้มีทอมมาให้ถึงสามชิ้นขนาด 8 นิ้วและแฉ Ride, Crash อย่างละ 1 ชิ้น ขนาด 10 นิ้ว นอกจากนี้ยังมี สแนร์, ไฮแฮท และที่เหยียบกระเดื่องมาครบเซต ส่วน Bass Drum เป็นแบบแป้นยางขนาด 8 นิ้ว ให้เสียงที่ใกล้เคียงกับกลองชุดจริง ตอบโจทย์สำหรับมือใหม่และมืออาชีพที่กำลังมองหากลองแบบไฟฟ้าไว้ฝึกซ้อมในบ้านเป็นอย่างมาก ราคา 9,900 บาท
2. Nux DM-210
กลองไฟฟ้า รุ่นนี้มีอุปกรณ์มาให้ครบครัน โดยตัวเครื่องสามารถใช้ซ้อม และบันทึกเสียงได้ในตัว อีกทั้งยังมีขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งตัวแป้นกลอง และสแนร์มีขนาด 8 นิ้วฉาบขนาด 14 นิ้วและ 12 นิ้ว มีกลองทอมขนาด 8 นิ้ว 3 แผ่นสามารถรองรับการเล่นดนตรีได้ทุกรูปแบบ มีไฮเฮดและกระเดื่องมาให้ภายในเซต สำหรับตัวกลองทุกชิ้นในรุ่นนี้ใช้หนังมุ้งทั้งหมด ให้ความรู้สึกเหมือนกลองจริง อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบามาก ใช้พื้นที่ในการจัดวางเพียงแค่ 1.5 ตรม. เท่านั้น สามารถปรับค่าเสียงได้ไม่ว่าจะเล่นดนตรีสไตล์ไหน มีโมดุล DM210 ช่องเสียบหูฟังสำหรับใช้ฝึกซ้อมส่วนตัวสามารถใช้อินฟราเรด Aux-in หรือบลูทูธได้ เหมาะมากสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ ราคา 16,200 บาท
3. Hampback MK-6W Pro
กลองรุ่นนี้ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ผู้เล่นมืออาชีพ โดยตัวกลองมีการปรับขนาดแป้นกลองให้ใหญ่สมจริงมากขึ้น โดยสแนร์ และ Bass Drum มีขนาด 12 นิ้ว มาพร้อมกลองทอม 2 ขนาด และฉาบ Ride 14 นิ้ว ซึ่งให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการตีกลองจริงเป็นอย่างมาก อีกทั้งตัวกลองยังทำจากหนังมุ้งทุกชิ้นให้สัมผัสที่สมจริงมากขึ้น มีความทนทานและเงียบกว่าแผ่นยางทั่วไป สำหรับแป้นกลองเป็นแบบโซนคู่ ซึ่งสามารถกำหนดเสียงตีตรงกลางและเสียงตีขอบได้ มีโมดูล DSP-7001 ให้เสียงมากถึง 880 เสียง ซึ่งช่วยสร้างสรรค์เพลงได้หลากหลายแนว สามารถใช้งานได้ถึง 20 User จึงเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของนักดนตรีจำนวนไม่น้อย ราคา 16,830 บาท
4. Nux DM-7
สำหรับมืออาชีพที่กำลังมองหา กลองไฟฟ้า ตัวใหม่ คงปฏิเสธกลองจากแบรนด์ REMO ไม่ได้ ซึ่งแบรนด์นี้พัฒนากลองหลากหลายรุ่นจนมีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยทิกเกอร์ที่ไวต่อความเร็ว มีความแม่นยำ สามารถตอบสนองต่อการตีได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีตัวแฉ Ride ขนาด 14 นิ้ว ตัวกลองมาพร้อมโมดูล DM-7 มีชุดสตูดิโอตัวอย่าง 30 ชุด ทั้งยังมีคลังเสียงที่ปรับแต่งได้ อินเตอร์เฟสมีความเรียบง่ายให้เสียงกลองที่สมจริง ถึง 30 แบบ ใช้ได้ 18 User มีฟังก์ชัน ONE KNOB: Overdrive, Compressor, Reverb และ Tune (ปรับแต่งและแก้ไขได้ทั้งหมด) เชื่อมต่อได้ครบครัน ราคา 24,750 บาท
5. Hampback MK-7X Pro
กลองไฟฟ้า รุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นอีกระดับให้มีรูปโฉมสวยงาม ใช้งานได้สะดวกสบาย อีกทั้งยังมีหนังหมูซึ่งสร้างความรู้สึกสมจริง ปรับจูนหนังกองได้ในจุดเดียว นอกจากนี้ยังมีไดนามิคในการตีมากขึ้น รวมถึงแฉจับหยุดได้ทุกใบ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อเปิดเล่นเพลงระหว่างซ้อมได้ ตัวเครื่องมีเสียงมาให้มากถึง 880 เสียง ตั้งค่าได้ 50 แบบ นอกจากนี้ตัวโมดุลยังใช้หน้าจอแบบ TFT สุดล้ำ มีขาไฮเฮดจริงแยกออกจากตัวกลองได้ เพื่อตอบสนองและให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับกลองจริงมากที่สุด กลองรุ่นนี้สามารถตีได้ทุกแนวเพลง จึงเป็นหนึ่งในกลองที่พัฒนาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถตอบโจทย์มือกลองได้ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือใหม่ ราคา 22,500 บาท
กลองไฟฟ้า ทั้ง 5 รุ่นที่กล่าวมาข้างต้น เป็นหนึ่งในกลองที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 มาจนถึงปี 2023 ทั้งนี้ในยุคปัจจุบันก็ยังมีกลองแบบไฟฟ้าอีกมากมายที่น่าสนใจและมีคุณภาพ ให้เสียงสมจริง ดังนั้นผู้ที่สนใจอยากเลือกซื้อกลองแบบไฟฟ้าเป็นของตัวเองสักเครื่อง จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและกำหนดงบประมาณเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
อ่านบทความ 7 อันดับ กลองชุด สำหรับเด็ก เล่นง่าย น่าใช้ ประจำปี 2023