เครื่องดนตรีสากลมีหลายประเภท อีกประเภทหนึ่งคือประเภทของเครื่องเป่า สำหรับใครที่ชื่นชอบเสียง ที่มีการเป่าลมผ่านเครื่องดนตรีและทำให้เกิดเสียงอันซับซ้อน แต่มีเสน่ห์ อย่าง ฟลูต เครื่องดนตรีที่เก่าแก่ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เมื่อ 900 ปีก่อน ค.ศ. หลังจากนั้นราวปี ค.ศ.1100 เครื่องเป่านี้ก็ได้ไปถึงยุโรป วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเรียนรู้วิธีการเริ่มเล่นเบื้องต้น สำหรับมือใหม่
ฟลูต วิธีเริ่มเล่นเบื้องต้น สำหรับมือใหม่
สำหรับเครื่องดนตรีประเภทเครืองเป่านี้ เหมาะมากที่จะเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะมีประโยชน์ในการพัฒนาสติปัญญาและสมาธิ รวมไปถึงเรื่องของความจำต่าง ๆ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มเล่น จะต้องรู้จักส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่องดนตรีชนิดนี้ก่อน

1. ประเภทของ Flute มี 4 ขนาดที่นิยมใช้
ได้แก่ Piccolo มีขนาดเล็กและเสียงสูงที่สุด, Concert Flute in C, Alto Flute in G และ Bass Flute in C ที่มีเสียงต่ำที่สุด เลือกประเภทให้เหมาะกับตัวเอง หรือตามความถนัดได้เลย วัสดุที่ใช้ทำมากจากทั้ง เงิน ทอง และไม้ เป็นต้น มี 2 ลักษณะ คือ Closed Hole เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นหัดเล่น เพราะไม่ต้องกังวลกับการอุดรูให้สนิท และ Open Hole เหมาะกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญแล้ว และอยากเล่นเทคนิคชั้นสูงขึ้นไป รูปแบบคีย์ของ ฟลูต มี 2 แบบ คือ Off Set G เข้ากับรูปมือพอดี และแบบ In Line G ลักษณะปุ่มเรียงเป็นแนวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับผู้เล่นจะเลือกใช้
2. วิธีการวางปาก
วิธีการเป่าคือ ให้ปิดปากให้สนิท ไม่ต้องเม้มเกร็งริมฝีปาก อ้าปากแล้วพูดคำว่า อา และเวลาเป่าลมพูดคำว่า พลู เป้าหมายก็เพื่อให้ลมมาโดนขอบด้านหน้าบริเวณเฮยจ้อย ต่อไปนำขอบด้านในของจ้อยมาทำการประกบที่กึ่งกลางบริเวณริมฝีปากล่าง โดยให้ริมฝีปากล่างติดขอบด้านในของรูเฮตจ้อยประมาณหนึ่งในสาม วิธีการหายใจ ทำได้ทั้งทางจมูก หรือทางปากก็ได้ เติมลมเข้าไปที่ท้อง เมื่อเป่าลมออกท้องจะยุบลง คล้ายการเป่าขลุ่ย

3. วิธีการเปลี่ยนระดับเสียงโดยการเปลี่ยนทิศทางของลม
เมื่อสามารถเป่า ฟลูต พื้นฐานจากการฟังเสียงทั่วไปได้แล้วต่อไปจะเป็นวิธีการเป่าระดับเสียงที่แตกต่างกัน นั่นก็คือการเปลี่ยนทิศทางลม เนื่องจากแต่ละระดับเสียงจะมีทิศทางลมที่เหมาะสมของตัวเอง ดังนั้นผู้เป่าจึงต้องปรับเปลี่ยนรูปปากเพื่อให้เกิดทิศทางลมที่เหมาะสมกับระดับเสียงต่าง ๆ เหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เสียงห่างกันมากยิ่งต้องมีการปรับทิศทางลมให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนในทันทีทันใด โดยเสียง ฟลูต แบ่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ เสียงต่ำ เสียงกลาง และเสียงสูง
เสียงระดับต่ำ จะต้องมีการเป่าให้ทิศทางลมลงข้างล่าง วิธีการคือให้ทำการเลื่อนกระดูกคางไปด้านหลัง
ระดับเสียงกลาง วิธีการเป่าให้ตรงเป็นกลาง ๆ ไม่ลงข้างล่างหรือขึ้นข้างบนมากจนเกินไป โดยให้มีการกระตุกหรือเลื่อนกระดูกคางไม่ให้ไปด้านหน้าหรือด้านหลัง
ระดับเสียงสูง วิธีการเป่าให้ทิศทางลมขึ้นไปด้านบน โดยการเลื่อนกระดูกคางไปด้านหน้า ไม่กดต่ำ

4. การวางมือ
วิธีการวางมือ ฟลูต คือ ให้มือทั้งสองข้างอยู่ในลักษณะโค้งได้รูป เท่ากับตัวเครื่อง มือซ้ายจับไว้ด้านบนและมือขวาวางไว้ด้านล่าง ทำการประคองเครื่องด้วยโคนนิ้วชี้มือซ้าย ใช้นิ้วชี้กดบริเวณปุ่มที่ไม่มีนวม โดยให้ทำการเว้นไว้ 1 ปุ่ม ตามมาด้วยนิ้ว นิ้วนาง นิ้วก้อยตามลำดับ และด้านหลังให้ใช้นิ้วโป้งกดบริเวณปุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หลังจากนั้นให้วางมือขวา โดยที่ให้นิ้วก้อยวางอยู่ที่บริเวณปุ่มแรก ที่อยู่ใกล้ที่สุด ตามด้วยนิ้วนาง นิ้วกลาง และนิ้วชี้ตามลำดับ ให้นิ้วโป้งประคองอยู่ใต้นิ้วชี้ ในลักษณะ 45 องศา
5. เทียบเสียง และเล่นโน้ตพื้นฐาน
โน้ตเสียงต่ำเป็นตัวโน้ตที่มีความยากในการเริ่มต้นเล่น ฟลูต ดังนั้นแนะนำว่าควรจะเริ่มต้นจากการเรียนด้วยโน้ตเสียงกลางและเสียงสูงเป็นต้นไป และให้ศึกษาบันไดเสียง ซึ่งหมายถึงตัวโน้ต 5-12 ตัวที่เรียงกันตามลำดับจากต่ำไปสูงหรือจากสูงไปต่ำ เรียกว่า Scale และ Arpeggio ซึ่งหมายถึง โน้ตตัวที่ 1, 3, 5 ของคอร์ด ที่นำมาเล่นเรียงกันทีละตัวจากต่ำไปสูงหรือจากสูงไปต่ำ นอกจากนั้น โน้ตตัวที่ 1, 3, 5 ของคอร์ดที่นำมาเล่นเรียงกันทีละตัวโดยไม่ได้เรียงลำดับจากต่ำไปสูงหรือจากสูงไปต่ำ แต่เรียงสลับกัน มีชื่อเรียกว่า Broken Arpeggio เป็นต้น
ฟลูต ถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีมาอย่างยาวนาน และมีเสน่ห์ ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มีความสำคัญในวงไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตามอย่าลืมหมั่นฝึกฝน เพื่อให้เกิดความชำนาญ ในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นเพื่อความบันเทิง หรือเพื่อเพื่อนร่วมวงของเราก็ตาม
อ่านบทความ เครื่องดนตรีสากลประเภทเป่าลมไม้
Picture credit https://www.pexels.com