ทรัมเป็ต ถือเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีความสำคัญกับ ดนตรีคลาสสิคเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้คนได้นับล้าน ทั้งยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคอดีตกาล และวันนี้เราจะมาบอกเล่าให้ทุกคนได้ทราบกันว่า เครื่องเป่าชนิดนี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงอยู่คู่ดนตรีแจสมาได้อย่างยาวนาน
1. ประวัติความเป็นมา
ทรัมเป็ต เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีคลาสสิคที่เก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่ง ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1500 ปีก่อนคริสตกาล โดยในอดีตเครื่องเป่าชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นจากท่อกลวงทองเหลือง นำมาดัดงอ 2 ครั้ง จนมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมพื้นผ้า สามารถสร้างเสียงได้ด้วยการเป่าลมเข้าไปที่ปลายท่อ เพื่อทำให้เกิดเสียงหึ่ง ๆ คล้ายฝูงผึ้งบิน ซึ่งนักโบราณคดีเชื่อกันว่า เครื่องดนตรีชนิดนี้มีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณเนื่องจากมีการขุดพบในสุสานของฟาโรห์ นอกจากนี้ยังพบแถบเอเชียกลาง โดยในการขุดค้นพบแต่ละครั้งรูปทรงของเครื่องดนตรีชนิดนี้จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ทว่าสิ่งเดียวที่คล้ายกันคือระบบการปล่อยเสียง ซึ่งในประเทศจีน เครื่องดนตรีสุดคลาสสิคชิ้นนี้นอกจากจะทำหน้าที่ปลุกใจสร้างความบันเทิงให้กับเหล่าทหารแล้ว ยังถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการส่งข่าวสารทางการทหาร ตลอดจนใช้เพื่อส่งสัญญาณระหว่างกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคชุนซิวที่มีสงครามเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
2. หลังยุคสงคราม
ทันทีที่สงครามเริ่มสงบ เครื่องดนตรีชนิดนี้ก็ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างเสียงดนตรีปลอบโยนผู้คน ตลอดจนสร้างความเพลิดเพลินให้กับบรรดาผู้มีฐานะมากยิ่งขึ้น โดยในยุคเรเนสซองส์ เครื่องดนตรีชนิดนี้เริ่มถูกนำออกมาใช้ในโบสถ์อย่างแพร่หลาย อนึ่งเพื่อเน้นสร้างแรงฮึกเหิมให้กับประชาชนที่ทุกข์ใจจากสงคราม รวมถึงเหล่าทหารผ่านศึกที่ต้องการเยี่ยวยาจิตใจ สำหรับเหตุที่ทำให้เครื่องดนตรีชนิดนี้ได้รับความนิยม อาจเพราะรูปแบบการใช้งานไม่ซับซ้อนและมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ความนิยมจึงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีประจำท้องถิ่นไปโดยปริยาย
3. ยุคแห่งการพัฒนา
ในช่วงศตวรรษที่ 17-18 ทรัมเป็ต ถูกยกระดับให้เป็นเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญ โดยบรรดาศิลปินชื่อดังหลายคนในยุคนั้น เริ่มนำเครื่องดนตรีชนิดนี้มาใช้เป็นเครื่องดนตรีหลักสำหรับการเขียนเพลงและบรรเลงเพลง ตลอดจนพัฒนารูปทรงและระบบการปล่อยเสียงขึ้นใหม่ เพื่อให้เครื่องเป่ายอดนิยมชิ้นนี้สามารถเป่าเสียงสูงต่ำได้มากกว่าหนึ่งเสียง แต่ถึงอย่างนั้นการที่จะทำให้เสียงที่เป่าออกมา มีความไพเราะ สม่ำเสมอ และก้องกังวาล ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นศิลปินหลายคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ควรกลับไปใช้แบบดังเดิมหรือก็คือ เสียงเดียวดังเช่นในอดีต
4. การก้าวสู่ยุคสมัยใหม่
แม้ในยุคอดีตการเปลี่ยนแปลงรูปทรง และระบบการปล่อยลมให้เครื่องดนตรีชนิดนี้มีเสียงมากกว่าหนึ่งเสียงเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เรื่องยาก ๆ ก็กลายเป็นจริงได้ทีละเล็กละน้อย ด้วยเทคโนโลยีและความหลงใหลในเสียงดนตรีของผู้คนที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ในตอนท้ายเครื่องดนตรีชิ้นนี้ก็สามารถเล่นได้มากกว่า 1 เสียงจริง ๆ โดยนักทำเครื่องดนตรีได้ปรับแต่งรูปทรง เพื่อเพิ่มลูกสูบและปุ่มกดเข้าไปควบคุมเสียงแต่ละเสียงให้มีความชัดเจน ใส และดังกังวานมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เครื่องดนตรีสุดคลาสสิคชิ้นนี้จึงมีลักษณะดังเช่นที่เราได้เห็นในยุคปัจจุบัน
5. ประเภทของ ทรัมเป็ต
ในยุคปัจจุบันเครื่องเป่าชนิดนี้มีหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งในรูปแบบดังเดิมที่ไม่มีระบบลูกสูบ ไปจนถึงเครื่องเป่าที่มี 3 ลูกสูบ โดยชนิดที่มีลูกสูบสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
1.Piston valves
2.Ritary valves
โดยแต่ละลูกสูบที่เพิ่มเข้ามามีส่วนช่วยเพิ่มลดระยะในการปล่อยเสียงจากการบีบอัดลมภายในท่อ จึงทำให้เกิดเป็นเสียงใหม่ที่ไพเราะมากยิ่งขึ้น อีกทั้งลูกสูบยังช่วยปรับกระแสลมภายใน ให้เสียงแต่ละเสียงที่วิ่งผ่านเกิดสมดุล จนกลายเป็นเสียงที่ก้องกังวาน มีเอกลักษณ์ และสร้างเสน่ห์ให้กับดนตรีคลาสสิคอย่าง แจส ได้อย่างน่าอัศจรรย์
ความเป็นมาของ ทรัมเป็ต ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งที่นำมาแบ่งปัน ซึ่งในยุคปัจจุบันเครื่องดนตรีชิ้นนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เช่น นำมาเล่นกับเพลงแนว ป๊อป แร็ป ร๊อค และอื่น ๆ เพื่อสรรสร้างเสียงเพลงแบบใหม่ ให้มีความโดดเด่น น่าดึงดูด ตลอดจนเพื่อผ่อนคลาย และสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้คนในแต่ละช่วงวัยนั่นเอง
อ่านบทความ เครื่องดนตรีสากลประเภทเป่าลมทองเหลือง
เครดิตรูปภาพจาก https://www.freepik.com